ตั้งอยู่ต้นถนนขุนลุมประพาส พระยาสิงหนาทราชา เดิมชื่อ ชานกะเล เป็นชาวไทยใหญ่ ได้รวบรวมผู้คนตั้งหมู่บ้านขึ้นชื่อว่า “ บ้านขุนยวม” ต่อมาได้ยกขึ้นเป็นเมือง จวบจนปี พ. ศ. ๒๔๑๗ จึงได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นเมืองแม่ฮ่องสอน และพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าครองนครเชียงใหม่ ได้ยกบรรดาศักดิ์ชานกะเล เป็นพระยาสิงหนาทราชาและแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก จากบริเวณอนุสาวรีย์พระยาสิงหนาทราชานี้ เมื่อมองตรงขึ้นไปจะเห็นองค์พระธาตุดอยกองมูอยู่บนยอดเขา
วัดพระธาตุดอยกองมู
ตั้งอยู่บนดอยกองมูทางทิศตะวันตกของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เดินทางโดยแยกจากทางหลวงสาย ๑๐๘ ตรงบริเวณอนุสาวรีย์พระยาสิงหนาทราชาขึ้นไปทางซ้ายมือ เป็นทางลาดยางขึ้นภูเขาไปอีกประมาณ ๑. ๕ กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณวัด วัดนี้เดิมมีชื่อเรียกว่า วัดปลายดอย เป็นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญ ประกอบด้วยพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม ๒ องค์ พระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างโดย “ จองต่องสู่” เมื่อ พ. ศ. ๒๔๐๓ เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ ซึ่งนำมาจากประเทศพม่า ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กสร้างเมื่อ พ. ศ. ๒๔๑๗ โดย “ พระยาสิงหนาทราชา” เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก จากวัดพระธาตุดอยกองมูนี้สามารถมองเห็นภูมิประเทศและสภาพตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจนและสวยงามมาก วัดนี้มีงานเทศกาลประจำปีหลายงาน เช่น ในวันปีใหม่ วันสงกรานต์ โดยเฉพาะในวันออกพรรษาจะมีการตักบาตรดาวดึงส์ หรือตักบาตรเทโวโรหนะด้วย
วัดพระนอน
ตั้งอยู่เชิงดอยกองมู เป็นที่ประดิษฐานพระนอนองค์ใหญ่ สร้างด้วยศิลปะไทยใหญ่ และเป็นพระนอนองค์ขนาดยาว ๑๒ เมตร ซึ่งมีพุทธลักษณะงดงามมาก ตามประวัติเล่าว่าพระนาง
เมี๊ยะ ภริยาของพระยาสิงหนาทราชาเป็นผู้สร้างขึ้น ภายในบริเวณมีรูปปั้นสิงโตขนาดใหญ่ ๒ ตัว เคียงข้างกันสร้างโดยพระยาสิงหนาทราชาตัวหนึ่ง และพระนางเมี๊ยะตัวหนึ่ง อยู่ระหว่างทางที่จะขึ้นไปนมัสการพระธาตุกองมู เป็นสิงโตที่มีลักษณะงดงามและสมบูรณ์มาก นอกจากนี้ภายในวัดยังมีการสอนวิปัสสนาอีกด้วย
วัดก้ำก่อ ( เป็นภาษาไตแปลว่า ดอกบุนนาค) ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดพระนอน เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอน สร้างเมื่อ พ. ศ. ๒๔๓๓ มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่งดงาม โดยเฉพาะหลังคาคลุมทางเดิน ตั้งแต่ซุ้มทางเข้าไปสู่ศาลา นอกจากนี้ยังมีตำราภาษาไทยใหญ่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยใหญ่กับเจ้าอโนรธามังช่อ ปัจจุบันได้รับการแปลเป็นภาษาไทยโดยพระมหาบุญรักษ์ สุปัญโญ ท่านเจ้าอาวาสวัดนี้
วัดหัวเวียงหรือวัดกลางเมือง
ตั้งอยู่ที่ถนนสีหนาทบำรุง ตำบลจองคำ ( อยู่ติดกับตลาดเช้าบริเวณสี่แยกไฟแดง) เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สร้างขึ้นเมื่อ พ. ศ. ๒๔๐๖ เป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าพาราละแข่ง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องประจำเมืองที่งดงามมาก มีประวัติว่าหล่อจำลองจาก “ พระมหามุนี” ซึ่งเป็นเจ้าพาราละแข่งองค์จริง ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า โดยลุงจองโพหย่า เดินทางไปนิมนต์มา พระเจ้าพาราละแข่งองค์นี้สร้างเป็นท่อนๆ ทั้งหมด ๙ ท่อน ล่องมาตามแม่น้ำปาย แล้วนำมาประกอบที่วัดพระนอนและนำมาประดิษฐานที่วัดหัวเวียง หรือวัดกลางเมือง ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง ปัจจุบันวิหารที่ประดิษฐานพระเจ้าพาราละแข่งสร้างใหม่เสร็จเรียบร้อยและยังคงโครงสร้างของวิหารตามรูปแบบเดิมไว้
หนองจองคำ
เป็นสวนสาธารณะตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นหนองน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมีน้ำตลอดปี เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และใช้เป็นสถานที่จัดงานประเพณีที่สำคัญ ๆ ของจังหวัดด้วย
วัดจองคำ
อยู่บริเวณสวนสาธารณะหนองจองคำ เป็นวัดเก่าแก่ สร้างเมื่อ พ. ศ. ๒๓๗๐ โดยช่างฝีมือชาวไทยใหญ่เป็นศิลปะแบบไทยใหญ่ที่แปลกและงดงามมาก หลังคาวัดเป็นรูปปราสาท เพราะมีคติว่าปราสาทเป็นของสูง ผู้ที่ประทับอยู่ในปราสาทควรจะเป็นพระมหากษัตริย์หรือตัวแทนพระศาสนา ในวิหารเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโตซึ่งเป็นพระประธาน มีขนาดหน้าตักกว้าง ๔. ๘๕ เมตร สร้างเมื่อ พ. ศ. ๒๔๖๙ โดยช่างฝีมือชาวพม่า เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่คล้ายพระศรีศากยมุนี(หลวงพ่อโต) ที่วิหารวัดสุทัศน์เทพวราราม เหตุที่เรียกชื่อวัดจองคำ เนื่องจากเสาวัดประดับด้วยทองคำเปลว
วัดจองกลาง
ตั้งอยู่ข้างกับวัดจองคำ ในวิหารมีแท่นบูชาตั้งพระพุทธสิหิงค์จำลอง ปิดทองเหลืองอร่ามไปทั้งองค์และภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงตุ๊กตาไม้แกะสลักป็นรูปคนและสัตว์ ฝีมือแกะสลักของช่างชาวพม่า ซึ่งนำมาจากพม่าตั้งแต่ พ. ศ. ๒๔๐๐ เปิดให้เข้าชมเวลา ๘.๐๐-๑๘.๐๐ น. นอกจากนี้มีภาพจิตรกรรมบนแผ่นกระจกเรื่องพระเวสสันดรชาดกและภาพพุทธประวัติ ตลอดจนภาพแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของคนสมัยนั้น หลายภาพมีคำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาพม่าและมีบันทึกบอกไว้ว่าเป็นฝีมือของช่างไทยใหญ่จากมัณฑะเลย์
ศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ตั้งอยู่เลขที่ ๑๒๘/ ๒ ถนนขุนลุมประพาส เป็นโครงการในพระบรมราชินูปถัมภ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อพ. ศ. ๒๕๒๗ ตามพระราชดำริในสมเด็จพระนาง
บ่อน้ำร้อนผาบ่อง
ห่างจากแม่ฮ่องสอนไปทาง อ. ขุนยวม ตามทางหลวงหมายเลข ๑๐๘ ประมาณ ๑๐ กิโลเมตร อยู่ทางขวามือ มีพื้นที่ประมาณ ๔ ไร่ เป็นบ่อน้ำร้อนที่มีแร่กำมะถันเจืออยู่ อุณหภูมิความร้อนไม่สูงมาก เพียงต้มไข่สุก บริการห้องอาบน้ำแร่ ห้องเดี่ยว ๔๐ บาท/ ชั่วโมง ห้องรวม ๒๐๐ บาท/ ชั่วโมง
น้ำตกผาบ่อง
ตั้งอยู่บ้านผาบ่องมีอีกชื่อหนึ่งว่าน้ำตกดำข่อน เพราะเกิดจากสายน้ำของห้วยดำข่อนที่ไหลตกมาตามหน้าผาสูงชันลดหลั่นกัน สูงประมาณ ๔๐ เมตร น้ำตกตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข ๑๐๘ ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ๑๒ กิโลเมตร
เขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำผาบ่อง
อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนไปทางทิศใต้ประมาณ ๑๒ กิโลเมตร เป็นเขื่อนกั้นลำน้ำแม่ละมาด และผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน บริเวณตัวเขื่อนมีศาลาพักผ่อน อากาศเย็นสบายมีลมพัดตลอดเวลา
บ้านน้ำเพียงดิน
อยู่ในเขตตำบลผาบ่อง เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมล่องเรือตามลำน้ำปาย ผ่านบ้านห้วยเดื่อถึงบ้านน้ำเพียงดินโดยเรือหางยาว ตลอดเส้นทางที่ล่องเรือไปตามลำน้ำจะผ่านระลอกน้ำที่ลดระดับลดหลั่นกันไปคล้ายธารน้ำตกนับเป็นทัศนียภาพที่งดงามแปลกตา จุดเด่นของบ้านน้ำเพียงดิน คือวิถีชีวิตของชาวปาด่อง ( กะเหรี่ยงคอยาว) การแต่งกายผู้ชายจะสวมกางเกงขายาว เสื้อตัวสั้น และมีผ้าโพกศีรษะ ผู้หญิงสวมเสื้อทรงกระบอกสีขาวยาวถึงสะโพก กระโปรงสีดำยาวถึงเข่า ไว้ผมหน้าม้า มีผ้าแถบโพกศีรษะ และสวมห่วงคอทองเหลืองเพื่อป้องกันภูตผีปีศาจ และกันการแต่งงานข้ามเผ่า ชาวปาดองมีนิสัยสุภาพเรียบร้อย ยิ้มแย้มแจ่มใส สะอาดเป็นระเบียบ
การเดินทาง จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเลี้ยวขวาตรงโรงแรมธาราแม่ฮ่องสอน ตามเส้นทางไปโป่งแดงประมาณ ๑๔ กิโลเมตร ก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำปายให้แยกซ้ายไปตามแม่น้ำ จะเห็นเรือหางยาวไว้บริการไปบ้านน้ำเพียงดิน หรือจะขับรถไปสุดทางเพื่อลงเรือที่บ้านห้วยเดื่อก็ได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑ ชั่วโมง ค่าโดยสารเหมาลำประมาณ ๕๐๐ บาท นั่งได้ ๘ คน ติดต่อท่าเรือบ้านห้วยเดื่อ โทร . ๐ ๕๓๖๑ ๓๑๖๐
นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวอีก ๒ แห่ง ได้แก่ บ้านในสอย ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ๓๓ กิโลเมตร เดินทางตามทางหลวงหมายเลข ๑๐๙๕ ไปทางอำเภอปางมะผ้า ผ่านบ้านปางหมู ข้ามสะพานแม่น้ำปาย บริเวณหลักกิโลเมตรที่ ๑๙๙ แยกซ้ายมือไปตามถนน รพช. ๑ กิโลเมตร เมื่อพบสามแยกให้เลี้ยวซ้ายไปตามทาง รพช. สายบ้านในสอยอีก ๑๗ กิโลเมตร บ้านกะเหรี่ยงคอยาวจะอยู่เลยบ้านในสอยไปประมาณ ๓ กิโลเมตร ทางช่วงนี้เป็นลูกรังควรใช้รถกระบะ ชาวต่างประเทศต้องเสียค่าเข้าหมู่บ้านกะเหรี่ยง ๒๕๐ บาท/ คน อีกหมู่บ้านหนึ่งคือ บ้านห้วยเสือเฒ่า อยู่ใกล้กับตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เดินทางจากตัวเมืองไปทางอำเภอขุนยวมผ่านหน้าศาลากลาง ถึงแยกไฟแดงซ้ายมือจะมีป้อมตำรวจเล็ก ๆ ตรงมุมถนนให้เลี้ยวเข้าไปอีกประมาณ ๑๒ กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านห้วยเสือเฒ่า ถนนเป็นคอนกรีตร่มรื่นตลอดทาง
บ้านยอดดอย ( หมู่บ้านแม้วไมโครเวฟ)
เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง ที่อาศัยอยู่บนดอยสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ ๑, ๐๐๐ เมตร การเดินทางจากแม่ฮ่องสอนไปหมู่บ้านป่าลาน ๓๒ กม. เส้นทางแม่ฮ่องสอน - ขุนยวม ประมาณกิโลเมตรที่ ๒๓๕ แล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นหมู่บ้าน ซึ่งเป็นทางลาดยางสูงชันประมาณ ๘ กิโลเมตร
น้ำตกซู่ซ่า
อยู่ในเขตบ้านแม่สุยะ ตำบลห้วยผา เป็นน้ำตกที่ทะลุจากซอกเขาเป็นทางยาวประมาณ ๑๐๐ เมตร ขนานไปกับลำน้ำ
อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา - ผาเสื่อ
มีพื้นที่ประมาณ ๔๘๘ ตารางกิโลเมตร อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอปางมะผ้า ภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ประกอบด้วยป่าดิบเขา ป่าสนเขา ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง สถานที่น่าสนใจของอุทยานได้แก่
ถ้ำปลา
ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยผา ตำบลห้วยผา ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๑๗ กิโลเมตร ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๑๐๙๕ ( แม่ฮ่องสอน- ปาย) กิโลเมตรที่ ๑๙๑- ๑๙๒ เส้นทางลาดยาง สามารถเดินทางไปชมได้ทุกฤดูกาล บริเวณโดยรอบเป็นลำธารและป่าเขา ถ้ำปลาตั้งอยู่บริเวณเชิงเขามีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่กว้างประมาณ ๒ เมตร ลึก ๑. ๕๐ เมตร ภายในแอ่งน้ำมีน้ำไหลออกจากถ้ำใต้ภูเขาอยู่ตลอดเวลา และมีปลาตัวโต ๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เรียกว่าปลามุงหรือปลาคัง เป็นปลามีเกล็ดขนาดใหญ่ ในวงศ์เดียวกับปลาคาร์พ และถึงแม้จะมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำอันตราย เนื่องจากมีความเชื่อว่าเป็นปลาเจ้า หากใครนำไปรับประทานแล้วจะต้องมีอันเป็นไป ปัจจุบันบริเวณอุทยานถ้ำปลาได้รับการปรับปรุง เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ มีบ้านพัก ๕ หลัง ราคา ๘๐๐ บาท สำรองที่พักได้ที่ โทร. ๐ ๕๓๖๑ ๙๐๓๖, ๐ ๕๓๖๙ ๒๐๕๕ หรือ สำนักอุทยานแห่งชาติ กรุงเทพฯ โทร. ๐ ๒๕๖๒ ๐๗๖๐ www.dnp.go.th
พระตำหนักปางตอง
อยู่ในเขตตำบลหมอกจำแป่ สามารถเดินทางไปโดยใช้เส้นทางเดียวกับทางเข้าน้ำตกผาเสื่อต่อไปอีกประมาณ ๕ กิโลเมตร ( ถนนห้วยขาน- บ้านป่าแปก) เรือนประทับแรมตั้งอยู่บนเขาสูงที่บ้านปางตอง ในโครงการพัฒนาพื้นที่สูงปางตอง เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๘. ๓๐- ๑๖. ๓๐ น.
สถานีวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าปางตอง สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดำเนินการเพาะเลี้ยงและอนุบาลสัตว์ป่าหายาก เช่น ละอง ละมั่ง ไก่ฟ้าหลังขาว ไก่ป่า นกต่างๆ รวมทั้งปลูกพืชเพื่อเป็นอาหารสัตว์
ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูง ตำบลหมอกจำแป่ ส่งเสริมการปลูก พืช ผัก สมุนไพร และ ดอกไม้เมืองหนาว เช่น กะหล่ำปลี กระชายดำ ขมิ้นขาว ขมิ้นชัน ศุภโชค อโวคาโด แกลดิโอลัส สแตติส กล้วยไม้ ฯ มีบ้านพัก ๒ หลัง รายละเอียดติดต่อ โทร . ๐ ๕๓๖๑ ๙๗๕๑
หมู่บ้านรักไท ( แม่ออ)
ตั้งอยู่ ตำบลหมอกจำแป่ ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ ๔๔ กิโลเมตร บ้านรักไทหรือบ้านแม่ออเป็นหมู่บ้านสุดท้ายก่อนถึงชายแดนไทย- พม่า ประชาการในหมู่บ้านส่วนใหญ่อพยพหนีภัยมาจากทางตอนใต้ของจีนในช่วงการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบบคอมมิวนิสต์ บริเวณหมู่บ้านมีทะเลสาบสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมวิถีชีวิตวัฒนธรรมจีนฮ่อซึ่งยังคงสืบทอดประเพณีไว้หลายอย่างทั้งภาษาพูด ภาษาเขียน ลักษณะบ้านบางส่วนเป็นบ้านแบบเก่าทำจากดินเหนียวผสมฟางข้าว รวมทั้งอาหารตำรับจีนตอนใต้แถบมณฑลยูนาน นอกจากนี้ยังสามารถชิมชาเลิศรสจากชาพันธุ์ดีซึ่งมีจำหน่ายในหมู่บ้าน เช่น ชาชิง ชิง ชาอู่หลง
ภูโคลนคันทรี่คลับ
หมู่ที่ ๒ บ้านแม่สะงา ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ ๑๕ กิโลเมตร การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๐๙๕ สายแม่ฮ่องสอน- ปาย ระยะทางประมาณ ๖ กม. เลี้ยวซ้ายไปตามถนนเข้าหมู่บ้านกุงไม้สัก- บ้านห้วยขาน บ้านแม่สะงา อีก ๔ กม. จะพบภูโคลนอยู่ทางขวามือ เป็นแหล่งโคลนที่มีคุณสมบัติทำให้ผิวพรรณผุดผ่องและช่วยการหมุนเวียนโลหิต เปิดบริการพอกโคลน ( พอกหน้า/ พอกตัว) อบซาวน่า และแช่น้ำแร่ ทุกวัน เวลา ๘. ๐๐- ๑๗. ๐๐ น. ติดต่อรายละเอียดได้ที่ ๐ ๑๔๗๓ ๘๐๑๓, ๐ ๖๑๙๘ ๐๗๒๒
ตลาดนัดการค้าชายแดน
บ้านห้วยผึ้ง ตำบลห้วยผา เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ เป็นตลาดค้าขายสินค้าบริเวณชายแดนไทย-พม่า ซึ่งใกล้กับจังหวัดตองกี ประเทศพม่า เปิดทุกวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น